พัฒนาการทางด้านสมอง
ปลูกฝังการออมให้ลูกน้อยตั้งแต่วัยเด็ก
ปลูกฝังการออมให้ลูกน้อยตั้งแต่วัยเด็ก
อ.ลักษณา พงษ์ภุมมา
ปัจจุบันสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่ทำท่าทำทางเหมือนจะดีขึ้น ก็กลับมาน่ากังวล และสร้างความหวาดระแวงอีกครั้ง สถานการณ์ของสถานที่หลายๆ แห่ง ก็ต้องหยุดชะงักไป ช่วงนี้เลยทำให้หลายๆ ท่าน ก็ยังคงมีเวลาอยู่กับคุณลูกเพิ่มมากขึ้นมาก เนื่องจากโรงเรียนยังไม่สามารถเปิดทำการได้เหมือนปกติ 100% วันนี้ก็เลยจะมีเคล็ดลับ ให้คุณพ่อ คุณแม่นำไปสอนลูกน้อยที่น่ารักของเรา ให้รู้จักเก็บออมเงิน ตั้งแต่วัยเด็ก รู้จักวางแผนการเงินของตัวเองกันตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกของเราโตมาแล้วรู้จักเก็บออม ซึ่งวิธีการมีดังนี้
Role Model หรือเรียกได้ว่า ตัวอย่างที่อยากให้ลูกเป็นนั่นเอง เพราะเด็กๆ ยังไม่ค่อยมีความคิดวิเคราะห์เท่ากับผู้ใหญ่ สิ่งแรกเลยที่เขาจะรู้สึก และซึมซับไปเป็นพฤติกรรมของตัวเอง ก็คือ การดูตัวอย่างจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่น้องคนใกล้ตัว เหมือนกับสุภาษิตไทยที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”
เก็บเล็กผสมน้อย เราควรสร้างวินัยให้กับลูก โดยการปลูกฝังให้เขาเป็นคนรู้คุณค่าของเงิน เก็บเล็กผสมน้อยตลอด ให้เขาเห็นถึงเงินก้อนภายภาคหน้าเมื่อเขาสามารถเก็บเงินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เช่น การหยอดกระปุก เชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่หลายคน ก็ต้องเคยเจอกับสภาวะที่โดนคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองสอนให้หยอดกระปุกเก็บเงินอยู่ทุกวัน
ซึ่งคำสอนนี้ถือเป็นการสร้างวินัยให้ลูกได้เป็นอย่างดี เพราะจะทำให้ลูกเกิดพฤติกรรมแบบนี้ในทุกๆ วัน ว่าเมื่อเขามีเงินเหลือจากการไปโรงเรียน ทุกเย็นเมื่อถึงบ้าน เขาจะต้องนำเงินที่เหลือออกมาหยอดใส่กระปุก เมื่อทำเป็นประจำทุกวันแล้ว ก็จะสร้างเป็นนิสัยประจำของลูก และเขาก็จะทำเองโดยที่เราไม่ต้องคอยบอก และเมื่อหยอดกระปุกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เราก็ควรที่จะนำออกมานับให้ลูกดู และถามลูกว่า อยากนำเงินที่ตัวเองเก็บ ไปใช้ซื้อของอะไรที่ตัวเองอยากได้ไหม หรืออยากเก็บออมเพิ่มเติม เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาทำต่อไป
พูดคุยกับลูก อย่าลืมข้อสำคัญอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ลูกของเราก็ยังเป็นเด็กอยู่ หากเขาทำอะไรไม่เป็นตามแผน หรือเกิดบางวันกลับบ้านมาแล้วไม่มีเงินเหลือกลับมาหยอดกระปุก ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะขนาดเราโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรายังเผลอไผลซื้อสิ่งฟุ่มเฟือย หรือไม่จำเป็นมาได้เลย เด็กๆ ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราต้องมีเวลามาพูดคุยกัน สอนลูกด้วยเหตุผลว่าอะไร คือ สิ่งจำเป็นและไม่จำเป็น คิดก่อนซื้อเสมอ และควรถามเขาถึงเหตุผลก่อน ไม่ใช่แบบเชิงตำหนิ หรือดุว่า ทำไมวันนี้เงินค่าขนมหมด เอาไปซื้ออะไร แม่ให้ไปตั้งเยอะนะ ควรคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ดี ราบเรียบ และถามปนสงสัยให้เขาค่อยๆ อธิบายออกมา เพื่อที่จะได้รู้ว่า จริงๆ ลูกเอาเงินไปใช้อะไร
จากสามข้อข้างต้น คุณพ่อ คุณแม่หลายๆ ท่านอาจจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ขอให้ทำต่อไป แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่ยังไม่เคยทำ แล้วอยากให้ลูกรู้จักเก็บออมเงินของตัวเอง ก็เริ่มค่อยๆ สอนเขาตั้งแต่วันนี้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ลูกก็จะซึมซับเอาสิ่งที่เราบอกทุกๆ วัน จนติดเป็นนิสัยเป็นของตัวเองต่อไป
เอกสารอ้างอิง
อนันต์จิรา แสงสุข. (2560). การเก็บออม. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ บงกชคิดส์.
แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำากัด (มหาชน). ปลูกฝังการออมให้ลูกน้อย ควรทำอย่างไร. สืบค้นเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2565, จาก https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/890081
การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปี
วัคซีนโควิด-19 และ 10 อาการอันตราย หลังฉีดที่ควรรีบพบแพทย์ทันทีสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี
ความรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับเด็ก และวัยรุ่น บท
นมฟลูออไรด์…….อีกวิธีของการป้องกันฟันผุ
นมฟลูออไรด์…….อีกวิธีของการป้องกันฟันผุ
เพ็ญพรรณ พิทักษ์สงคราม*………. เรียบเรียง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการปวดฟัน นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกมีรอยผุของฟัน ที่มีขนาดใหญ่และลุกลามไปมากแล้ว และควรจะต้องได้รับการรักษา
อาการปวดฟันจะมีตั้งแต่ปวดน้อยไปจนถึงปวดมากจนเด็กไม่สามารถใช้กัดหรือเคี้ยวอาหารได้เป็น ปกติ เมื่อเด็กเริ่มมีอาการปวดฟันมากขึ้น จะทำให้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากเด็กจะมีความอยากอาหารน้อยลง หรือเลือกกินมากขึ้น ส่งผลให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
เมื่อเด็กปวดฟันมากจนนอนไม่หลับก็จะกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต (growth hormone) เหล่านี้จะส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายของเด็ก
ในเด็กที่มีฟันผุลุกลามมาก สามารถพบการติดเชื้อและเป็นหนองลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงได้ เช่น แก้ม ดวงตา และสมอง หรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ไม่ใช่แค่การส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กเพียงอย่างเดียว โรคฟันผุยังทำให้เด็กเกิดปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ด้วย
การมีฟันผุทำให้เด็กขาดความมั่นใจในการพูดเนื่องจากฟันมีการเปลี่ยนสีหรือมีรูปร่างที่ผิดปกติ หรือการที่เด็กต้องถอนฟันน้ำนมออกก่อนที่ฟันแท้ขึ้นก็ส่งผลต่อฟันที่กำลังงอกใหม่ให้มีการล้มเอียงส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวได้เช่นเดียวกัน
โรคฟันผุ เป็นโรคที่ป้องกันและรักษาได้ แม้ว่าการเกิดฟันผุจะเกิดขึ้นได้ง่ายกับเด็ก วิธีการมีตั้งแต่การเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสมกับเด็ก การเลือกชนิดของยาสีฟัน การปลูกฝังให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี และไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เมื่อตรวจพบรอยผุขนาดเล็ก ก็จะทำการรักษาได้ไม่ยุ่งยาก หากรอจนฟันผุลุกลามหรือเด็กมีอาการปวดฟันแล้วจึงค่อยไปพบทันตแพทย์ ก็อาจสายเกินไปที่จะรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้
การใช้ฟลูออไรด์ป้องกันการผุของฟัน เป็นอีกวิธีที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนเลือกนำมาใช้ บางท่านอาจสงสัยว่าฟลูออไรด์ที่โฆษณาในสินค้าที่ใช้ดูแลสุขภาพช่องปาก ทั้งที่อยู่ในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ยาเม็ดวิตามินเสริม ความจริงแล้วคืออะไร มีประโยชน์หรือไม่อย่างไร คำตอบที่น่าสนใจ คือ ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติที่ช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีงานวิจัยที่มีคุณภาพรองรับจำนวนมาก และศึกษากันมายาวนานมากกว่า 30 ปี
ฟลูออไรด์จะทำหน้าที่ในการป้องกันฟันผุโดย ทำให้โครงสร้างของฟันแข็งแรงทนกรดมากขึ้น และซ่อมแซมฟันผุเล็กๆ หรือฟันผุระยะแรกโดยการตกตะกอนแร่ธาตุกลับเข้าไปใหม่
นอกจากการใช้ฟลูออไรด์แบบสัมผัสโดยตรงกับกับฟันแล้ว ยังมีฟลูออไรด์แบบทานที่ได้จากอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ยาเม็ดฟลูออไรด์ ยาน้ำ วิตามิน ฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ที่เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 12 ปี สำหรับยาเม็ดและยาน้ำฟลูออไรด์ควรอยู่ในการควบคุมปริมาณโดยทันตแพทย์ ซึ่งจะต้องมีการประเมินปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำและอาหารที่เด็กได้รับก่อนที่จะสั่งจ่ายฟลูออไรด์ให้เด็ก เนื่องจากมีโอกาสที่เด็กจะได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป
อีกรูปแบบของฟลูออไรด์ที่นิยมให้เด็กรับประทานคือ นมฟลูออไรด์ นมทั่วไปเมื่อเด็กดื่มแล้วจะมีคราบนมติดอยู่บนผิวฟันซึ่งถ้าไม่ได้รับการทำความสะอาดให้ดีก็จะเป็นสาเหตุของฟันผุได้ แต่สำหรับนมฟลูออไรด์ที่เป็นนมที่มีการเติมโซเดียมฟลูออไรด์เข้าไปในปริมาณที่กรมอนามัยโลกกำหนด จะช่วยให้เด็กที่นอกจากได้รับแคลเซียมจากนมในปริมาณที่เหมาะสมแล้วยังได้รับแคลเซียมซึ่งช่วยในการป้องกันฟันผุโดยที่กลิ่น สี และรสชาติของนมยังคงเดิม
จากการศึกษาของโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทยในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าการให้เด็กดื่มนมฟลูออไรด์เป็นระยะเวลา 5 ปี สามารถช่วยลดการเกิดฟันผุในฟันแท้ที่งอกขึ้นมาใหม่ได้ร้อยละ 34.4 และไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ จากการได้รับฟลูออไรด์เกินขนาด ซึ่งเด็กยังคงต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ
ดังนั้นการเลือกใช้การรับประทานฟลูออไรด์เพื่อการป้องกันโรคฟันผุในเด็ก โดยเฉพาะการดื่มนมฟลูออไรด์จึงเป็นอีกรูปแบบที่คุณพ่อคุณแม่นิยมให้บุตรของตนเองใช้ เนื่องจากเป็นวิธีการเกิดขึ้นได้ง่าย เด็กไม่ปฏิเสธ เกิดประสิทธิภาพสูง
อ้างอิง
เพจอนามัยมีเดีย. (2562). นมฟลูออไรด์การป้องกันฟันผุ. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2565.
จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/milk-4/